ยุโรปใต้

 

ยุโรปใต้ – เป็นภูมิภาคหนึ่งในทวีปยุโรป ซึ่งมีดินแดนติดต่อกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและอยู่ในคาบสมุทรใหญ่ 3 คาบสมุทรคือ คาบสมุทรไอบีเรีย คาบสมุทรอิตาลี คาบสมุทรบอลข่าน อยู่ในละติจูดที่ 35 องศาเหนือถึง 47 องศาเหนือ มีพื้นที่ประมาณ 1,316,290 ตารางกิโลเมตร ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเชื้อสายเมดิเตอร์เรเนียน

 

ประกอบไปด้วย 16 ประเทศดังนี้

  • แอลเบเนีย
  • อันดอร์รา
  • โครเอเชีย
  • ยิบรอลตาร์
  • กรีซ
  • อิตาลี
  • นอร์ทมาซิโดเนีย
  • มอลตา
  • โปรตุเกส
  • ซานมารีโน
  • เซอร์เบีย
  • มอนเตเนโกร
  • บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
  • สเปน
  • สโลวีเนีย
  • คอซอวอ

 

วันนี้เราจะพาไปดูสถานที่ท่องเที่ยวของ สเปน กันค่ะ สเปนหรือประเทศ สเปน (Kingdom of Spain) ประเทศเก่าแก่และมีความสำคัญในอันดับต้นๆ ของทวีปยุโปประเทศหนึ่ง เป็นเดสติเนชั่นการท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะมีชื่อเสียงเรื่องทีมฟุตบอล เป็นดินแดนต้นกำเนิดของมาธาดอร์ (Matador)สำหรับนักช้อปปิ้งก็ห้ามพลาดกับสินค้าเครื่องหนังชั้นดีและสินค้าหัตถกรรม เครื่องปั้นดินเผาต่างๆ ภาษาที่ใช้ในสเปน คือ ภาษาสเปน (ภาษาราชการ) แต่ก็มีภาษาอังกฤษใช้ทั่วไปในแหล่งธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยว สเปนมีหน่วยเงินยูโร (Euro or EUR) เราได้ทำการยกความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม มาเขียนไว้ในนี้แล้วค่ะ 

 

1.มาดริด (Madrid)

 

2016-02-04_115451

 

กรุงมาดริด เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศสเปน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของทวีปยุโรป รองจาก กรุงลอนดอน และกรุงเบอร์ลิน และในเขตเมืองยังเป็นอันดับที่ 3 ของยุโรป รองจากกรุงลอนดอน และกรุงปารีส อีกด้วย

กรุงมาดริด ตั้งอยู่ในแถบแม่น้ำ Manzanares ใจกลางของประเทศสเปน และมาดริดยังเป็นเมืองหลวงทางด้านการเมืองการปกครองของประเทศสเปนอีกด้วย

 

2.บาร์เซโลนา (Barcelona)

 

บาเซโลน่า

 

บาร์เซโลนาเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศสเปน และมีผู้คนอาศัยอยู่เกือบ 2 ล้านคน ซึ่งตั้งอยู่ทางชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปน บาร์เซโลนาถือว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ต่าง ๆ มากมาย นับตั้งแต่ 2,000 ปีที่แล้ว ที่ยังเป็นเมืองของยุคโรมัน ซึ่งมีชื่อเดิมว่า บาร์ซิโน

นอกจากความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม อาหาร และ ความมีชื่อเสียงด้านกีฬาแล้ว เมือง บาร์เซโลน่า ยังมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมอันหลากหลายในส่วนต่างๆของเมืองอีกด้วย

3.วาเลนเซีย (Valencia)

 

City of Arts and Science

 

หากเอ่ยถึงเมืองแห่งศิลปะและพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ของประเทศสเปน แน่นอนว่าเราต้องไม่พลาดนึกถึง “เมืองบาเลนเซีย” หรือ “เมืองวาเลนเซีย” (Valencia) เมืองบาเลนเซีย ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำตูเรีย (Turia River) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศสเปน และยังเป็นที่ตั้งของสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงคือ สโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย (Valencia Club de Futbol) รู้จักกันในชื่อ บาเลนเซีย หรือ ไอ้ค้างคาว เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของประเทศสเปนที่มีชื่อเสียง

 

4.เซบียา (Seville)

 

เซบียา

 

“เซบียา” หนึ่งในจังหวัดสำคัญแห่งแคว้นอันตาลูเซียที่เรียกได้ว่าจุดเด่นของสเปนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเหล้าเชอรี่ วัวกระทิง หรือระบำฟลามิงโก รวมอยู่ด้วยกันที่นี่ สิ่งที่หลงเหลือจากที่เหล่าผู้ปกครองแต่ละยุคสมัยทิ้งไว้คือ การผสมผสานทางวัฒนธรรมที่เห็นได้ทั้งจากโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวิทยาสาขาต่าง ๆ

 

5.กอร์โดบา (Cordoba)

 

Cordoba

 

เป็นเมืองหลักของจังหวัดกอร์โดบาก่อตั้งขึ้นในสมัยโรมันโบราณในชื่อ กอร์ดูบา (Corduba) โดย เกลาดีอุส มาร์เซลลุส (Claudius Marcellus) เป็นเมืองมรดกโลกที่ครั้งหนึ่งในอดีตมีความรุ่งเรืองถึงขั้นเป็นเมืองแห่งการปกครองของโลกตะวันตก เป็นอีกเมืองหนึ่งของสเปนที่มีศิลปะของชาวมัวร์โบราณและสุเหร่าที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง

 

6.Tower of Hercules ประภาคาร เฮอร์คิวลิส

 

2016-02-05_095543

 

ประภาคาร เฮอร์คิวลิส เป็นประภาคารในแบบโรมันที่ยังเปิดให้เข้าชมที่มีความเก่าแก่ที่สุดในโลก ประภาคารแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างแนนหน้าผาของ Orzan และ เหว Artabro และหอคอยสังเกตการณ์โรมันโบราณซึ่งตั้งอยู่บริเวณแหลมทางตอนเหนือของเมืองอาโกรุญญา หลักฐานทางประวัติศาสตร์บ่งชี้ว่าถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 เป็นหนึ่งในอนุสรณ์ประจำชาติ และยังเป็นหนึ่งในมรดกโลก (UNESCO World Heritage)

 

7.Vizcaya Suspension Bridge

 

Vizcaya Suspension Bridge

 

สะพาน Vizcaya Suspension Bridge เป็นสะพานที่ใช้ในการขนส่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ประเทศสเปนในแคว้น เซโกเวีย Segovia เป็นเมืองหลวง ที่อยู่ห่างจาก Madrid ประมาณ 1 ชม. และยังสามารถใช้งานมาจนได้ถึงปัจจุบัน โดยเมื่อเทียบสถิติแล้วเกือน 6 ล้านคนต่อปีที่จะต้องมีการข้ามสะพาน Vizcaya Suspension Bridge แห่งนี้ และด้วยสถาปัตยกรรมและความเก่าแก่ของสะพานแขวนนี้ จึงได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของโลกจาก Unesco

 

8.อาลัมบรา Alhambra

 

อาลัมบรา Alhambra

 

อาลัมบรา Alhambra คือพระราชวัง และป้อมปราการ ตั้งอยู่ที่เมือง กรานาดาในแคว้นอันดาลูเซีย ทางภาคใต้ของประเทศสเปน โดยกษัตริย์มุสลิมชาวมัวร์ พระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 1 อิบน์ นัสร์ แห่งราชวงศ์นาสริด ซึ่งเป็นราชวงศ์ของชาวมุสลิมราชวงศ์สุดท้ายในสเปน คำว่า “อาลัมบรา” มาจากคำในภาษาอาหรับว่า “อัลคัมรอ” แปลว่า “(สิ่งที่มี) สีแดง” เนื่องจากตัวป้อมปราการนั้นก่อสร้างด้วยหิน ดิน และอิฐสีแดง ส่วนอาคารอื่น ๆ ซึ่งสร้างด้วย การใช้ปูนขาวเป็นส่วนประกอบก็จะเห็นเป็นสีออกแดง ๆ เช่นกัน

ตัวพระราชวังตั้งอยู่บนเนินเขาหินขนาดใหญ่ พระราชวังอัลฮัมบรา ยังจัดเป็นสถานที่ ที่มีเสน่ห์สามารถดึงดูด นักท่องเที่ยวได้จำนวนมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป

 

9.Parque Nacional del Teide

 

 Parque Nacional del Teide

 

อุทยานแห่งชาติเตย์เด (Parque Nacional del Teide) ตั้งอยู่บนเกาะเตเนรีเฟ (Tenerife) ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่เกาะคะเนรี (Canary Islands) ของประเทศสเปน สำหรับการเดินทางมายังเกาะนั้น นักท่องเที่ยวสามารถมาได้ทั้งทางเรือและทางเครื่องบิน

อุทยานแห่งชาติเตย์เดเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีทัศนียภาพสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ เนื่องจากเป็นอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดในสเปน ภายในอุทยานนั้นมีภูเขาไฟเตย์เด ที่มีความสูงถึง 3,718 เมตร และมีความสูงเหนือพื้นมหาสมุทร 7500 เมตร และถือว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในสเปนอีกด้วย

 

 

10.Ibiza

 

 Ibiza