กรุงมาดริด เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศสเปน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของทวีปยุโรป รองจาก กรุงลอนดอน และกรุงเบอร์ลิน และในเขตเมืองยังเป็นอันดับที่ 3 ของยุโรป รองจากกรุงลอนดอน และกรุงปารีส อีกด้วย
กรุงมาดริด ตั้งอยู่ในแถบแม่น้ำ Manzanares ใจกลางของประเทศสเปน และมาดริดยังเป็นเมืองหลวงทางด้านการเมืองการปกครองของประเทศสเปนอีกด้วย
2.บาร์เซโลนา (Barcelona)
บาร์เซโลนาเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศสเปน และมีผู้คนอาศัยอยู่เกือบ 2 ล้านคน ซึ่งตั้งอยู่ทางชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปน บาร์เซโลนาถือว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ต่าง ๆ มากมาย นับตั้งแต่ 2,000 ปีที่แล้ว ที่ยังเป็นเมืองของยุคโรมัน ซึ่งมีชื่อเดิมว่า บาร์ซิโน
นอกจากความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม อาหาร และ ความมีชื่อเสียงด้านกีฬาแล้ว เมือง บาร์เซโลน่า ยังมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมอันหลากหลายในส่วนต่างๆของเมืองอีกด้วย
3.วาเลนเซีย (Valencia)
หากเอ่ยถึงเมืองแห่งศิลปะและพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ของประเทศสเปน แน่นอนว่าเราต้องไม่พลาดนึกถึง “เมืองบาเลนเซีย” หรือ “เมืองวาเลนเซีย” (Valencia) เมืองบาเลนเซีย ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำตูเรีย (Turia River) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศสเปน และยังเป็นที่ตั้งของสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงคือ สโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย (Valencia Club de Futbol) รู้จักกันในชื่อ บาเลนเซีย หรือ ไอ้ค้างคาว เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของประเทศสเปนที่มีชื่อเสียง
4.เซบียา (Seville)
“เซบียา” หนึ่งในจังหวัดสำคัญแห่งแคว้นอันตาลูเซียที่เรียกได้ว่าจุดเด่นของสเปนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเหล้าเชอรี่ วัวกระทิง หรือระบำฟลามิงโก รวมอยู่ด้วยกันที่นี่ สิ่งที่หลงเหลือจากที่เหล่าผู้ปกครองแต่ละยุคสมัยทิ้งไว้คือ การผสมผสานทางวัฒนธรรมที่เห็นได้ทั้งจากโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวิทยาสาขาต่าง ๆ
5.กอร์โดบา (Cordoba)
เป็นเมืองหลักของจังหวัดกอร์โดบาก่อตั้งขึ้นในสมัยโรมันโบราณในชื่อ กอร์ดูบา (Corduba) โดย เกลาดีอุส มาร์เซลลุส (Claudius Marcellus) เป็นเมืองมรดกโลกที่ครั้งหนึ่งในอดีตมีความรุ่งเรืองถึงขั้นเป็นเมืองแห่งการปกครองของโลกตะวันตก เป็นอีกเมืองหนึ่งของสเปนที่มีศิลปะของชาวมัวร์โบราณและสุเหร่าที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง
6.Tower of Hercules ประภาคาร เฮอร์คิวลิส
ประภาคาร เฮอร์คิวลิส เป็นประภาคารในแบบโรมันที่ยังเปิดให้เข้าชมที่มีความเก่าแก่ที่สุดในโลก ประภาคารแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างแนนหน้าผาของ Orzan และ เหว Artabro และหอคอยสังเกตการณ์โรมันโบราณซึ่งตั้งอยู่บริเวณแหลมทางตอนเหนือของเมืองอาโกรุญญา หลักฐานทางประวัติศาสตร์บ่งชี้ว่าถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 เป็นหนึ่งในอนุสรณ์ประจำชาติ และยังเป็นหนึ่งในมรดกโลก (UNESCO World Heritage)
7.Vizcaya Suspension Bridge
สะพาน Vizcaya Suspension Bridge เป็นสะพานที่ใช้ในการขนส่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ประเทศสเปนในแคว้น เซโกเวีย Segovia เป็นเมืองหลวง ที่อยู่ห่างจาก Madrid ประมาณ 1 ชม. และยังสามารถใช้งานมาจนได้ถึงปัจจุบัน โดยเมื่อเทียบสถิติแล้วเกือน 6 ล้านคนต่อปีที่จะต้องมีการข้ามสะพาน Vizcaya Suspension Bridge แห่งนี้ และด้วยสถาปัตยกรรมและความเก่าแก่ของสะพานแขวนนี้ จึงได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของโลกจาก Unesco
8.อาลัมบรา Alhambra
อาลัมบรา Alhambra คือพระราชวัง และป้อมปราการ ตั้งอยู่ที่เมือง กรานาดาในแคว้นอันดาลูเซีย ทางภาคใต้ของประเทศสเปน โดยกษัตริย์มุสลิมชาวมัวร์ พระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 1 อิบน์ นัสร์ แห่งราชวงศ์นาสริด ซึ่งเป็นราชวงศ์ของชาวมุสลิมราชวงศ์สุดท้ายในสเปน คำว่า “อาลัมบรา” มาจากคำในภาษาอาหรับว่า “อัลคัมรอ” แปลว่า “(สิ่งที่มี) สีแดง” เนื่องจากตัวป้อมปราการนั้นก่อสร้างด้วยหิน ดิน และอิฐสีแดง ส่วนอาคารอื่น ๆ ซึ่งสร้างด้วย การใช้ปูนขาวเป็นส่วนประกอบก็จะเห็นเป็นสีออกแดง ๆ เช่นกัน
ตัวพระราชวังตั้งอยู่บนเนินเขาหินขนาดใหญ่ พระราชวังอัลฮัมบรา ยังจัดเป็นสถานที่ ที่มีเสน่ห์สามารถดึงดูด นักท่องเที่ยวได้จำนวนมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป
9.Parque Nacional del Teide
อุทยานแห่งชาติเตย์เด (Parque Nacional del Teide) ตั้งอยู่บนเกาะเตเนรีเฟ (Tenerife) ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่เกาะคะเนรี (Canary Islands) ของประเทศสเปน สำหรับการเดินทางมายังเกาะนั้น นักท่องเที่ยวสามารถมาได้ทั้งทางเรือและทางเครื่องบิน
อุทยานแห่งชาติเตย์เดเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีทัศนียภาพสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ เนื่องจากเป็นอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดในสเปน ภายในอุทยานนั้นมีภูเขาไฟเตย์เด ที่มีความสูงถึง 3,718 เมตร และมีความสูงเหนือพื้นมหาสมุทร 7500 เมตร และถือว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในสเปนอีกด้วย
10.Ibiza