ยุโรปตะวันออก

ยุโรปตะวันออก

ยุโรปตะวันออก

ยุโรปตะวันออก (อังกฤษ: Eastern Europe) มีพื้นที่อยู่ระหว่างละติจูดที่ 40 – 53 องศาเหนือ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวสลาฟ สภาพความเป็นอยู่เป็นแบบชนบท ประกอบไปด้วยประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของ สหภาพโซเวียต, อดีต เชโกสโลวาเกีย (ปัจจุบันคือ เช็กเกียและ สโลวาเกีย), โปแลนด์, ฮังการี, โรมาเนีย, บัลแกเรีย และอดีต ยูโกสลาเวีย ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรปตะวันออกในอดีต ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ แต่ในปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนาเป็นประชาธิปไตยบ้างแล้ว ศาสนาที่นับถือส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้คือศาสนาคริสต์ ภาษาที่ใช้เป็นภาษากลุ่มโรแมนซ์และกลุ่มสลาวอนิก

ยุโรปตะวันออกเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยเมืองและประเทศท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย สถาปัตยกรรมก็สวย ธรรมชาติก็งดงามเหมือนฝัน ถ่ายรูปออกมารับรองเพื่อนๆ ต้องแห่มากดไลค์ให้ ที่สำคัญ ภายในหนึ่งทริปเราสามารถไปเที่ยวได้หลายเมือง หลายประเทศอีกด้วย เพราะแต่ละประเทศเชื่อมต่อกันหมด อย่ารอช้าดีกว่า ตามเอ็กซ์พีเดียมาดูกันว่าในยุโรปตะวันออกจะมีประเทศไหนน่าไปเที่ยวกันบ้าง

 

ทริปเที่ยวยุโรปตะวันออกกับ 10 ประเทศในฝัน

ประเทศโปแลนด์ (Poland)

โปแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศยุโรปตะวันออกที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ทั้งปราสาทอันสวยงามจากยุคกลางไปจนถึงค่ายกักกันเอาช์วิทซ์จากสงครามโลกครั้งที่สอง ส่วนเมืองน่าเที่ยวนั้นก็มีทั้งวอร์ซอ (Warsaw) เมืองหลวงของโปแลนด์ ที่มีย่านเมืองเก่าเป็นเหมือนศูนย์กลางให้เพื่อนๆ ได้ไปเดินเล่นชมบรรยากาศบ้านเมืองของโปแลนด์กัน หรือจะเป็นเมืองกดัญสก์ (Gdansk) อดีตเมืองสวยที่สุดในโปแลนด์ก่อนจะโดนสงครามพังทลาย แต่ปัจจุบันก็ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่จนสวยงามเช่นเดิม และอีกเมืองที่ห้ามพลาดคือเมืองวรอตสวาฟ (Wroclaw) ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเวนิสแห่งโปแลนด์ เพราะถูกล้อมรอบด้วยคลองต่างๆ รวมถึงมีสะพานข้ามแม่น้ำกว่า 120 สะพาน อีกทั้งยังเป็นเมืองน่าเที่ยวอันดับ 1 ในยุโรปของปี 2018 อีกด้วย

 

ประเทศออสเตรีย (Austria)

ออสเตรียเป็นประเทศในยุโรปตะวันออกที่เต็มไปด้วยเสน่ห์สุดโรแมนติกและเสียงดนตรี เพราะเป็นบ้านเกิดของนักดนตรีชื่อดังทั้งโมสาร์ทและบีโทเฟน ส่วนเมืองท่องเที่ยวก็มีมากมาย เริ่มต้นกันตั้งแต่ที่เมืองหลวงอย่างกรุงเวียนนา (Vienna) ที่มีสถาปัตยกรรมสวยๆ ทั้งพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen’s Cathedral) โรงอุปรากรแห่งกรุงเวียนนา (Vienna State Opera) หรือแม้กระทั่งถนนช็อปปิ้งชื่อดังของเวียนนาอย่างคาร์ทเนอร์สตรีท (Kartner Street) ก็ยังเป็นย่านที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามจนต้องแวะถ่ายรูปกันทุกจุด นอกเหนือจากเมืองหลวงอย่างกรุงเวียนนาแล้ว ออสเตรียยังมีเมืองท่องเที่ยวอันโด่งดังอื่นๆ อีก เช่น เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เมืองเล็กริมทะเลสาบที่สวยงามรามกับหลุดออกมาจากนวนิยาย เมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) เมืองบ้านเกิดของโมสาร์ท เมืองอินส์บรุค (Innsbruck) เมืองสีพาสเทลที่รายล้อมด้วยภูเขาหิมะขนาดใหญ่ รับรองได้ว่าไปถึงแล้วหัวใจเพื่อนๆ จะต้องพองโตกับความสวยงามของบ้านเมืองในออสเตรียอย่างแน่นอน

 

สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic)

หากพูดถึงประเทศเช็กเกีย หรือสาธารณรัฐเช็กในยุโรปตะวันออก หลายคนอาจจะงงๆ อยู่ว่าคือที่ไหน แต่ถ้าพูดถึงเมืองหลวงอย่างปราก (Prague) รับรองว่าต้องร้องอ๋อกันอย่างแน่นอน เพราะปรากเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก และเป็นเมืองที่ได้รับการขนานนามว่าโรแมนติกที่สุด ใครไปกับคนรู้ใจรับรองว่าได้ดื่มด่ำบรรยากาศกันเต็มที่แน่นอน หากไปเที่ยวปรากแล้วต้องไม่พลาดไปเดินข้ามสะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) สะพานหินที่เชื่อมระหว่างเมืองใหม่และเมืองเก่า แล้วไปต่อกันที่ปราสาทปราก (Prague Castle) ปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้เมืองสวยๆ อย่างเมืองเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นเมืองโบราณสุดน่ารักที่อยู่ไม่ไกลจากปราก ล้อมรอบด้วยลำคลอง บ้านเมืองมีหลังคาสีส้มคุมโทน น่ารักราวกับหลุดมาจากนิทานเลย

 

ประเทศฮังการี (Hungary)

เราเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อแม่น้ำดานูบ (Danube River) อันโด่งดังกันอย่างแน่นอน แม่น้ำดานูบนี้ก็อยู่ที่ยุโรปตะวันออก ในประเทศฮังการี เมืองบูดาเปสต์ (Budapest) นี่เอง นักท่องเที่ยวจะต้องตะลึงกับความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์บริเวณริมฝั่งแม่น้ำดานูบ เอ็กซ์พีเดียขอแนะนำการเที่ยวบูดาเปสต์แบบง่ายๆ ให้เพื่อนๆ ได้ไปตามรอยกัน โดยเริ่มจากไปเดินเล่นอาคารรัฐสภาฮังการี (Parliament Building Budapest) ในตอนเช้า ซึ่งเป็นอาคารสไตล์โกธิคที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามอลังการ แล้วข้ามไปชมสะพานเชน (Chain Bridge) สะพานที่หลายคนต่างบอกว่าเป็นสะพานที่สวยที่สุดในยุโรป จากนั้นก็ขึ้นไปที่ป้อมชาวประมง (Fisherman’s Bastion) กันต่อ ปิดท้ายวันด้วยการไปแช่น้ำร้อนที่สระอาบน้ำเซเยนซี (Szechenyi Thermal Bath) สระอาบน้ำและสปาเพื่อสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปตะวันออก เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยจากการท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน ส่วนใครอยากออกไปเที่ยวนอกเมืองก็มีเมืองเปชส์ (Pécs) เมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ใกล้ชายแดนโครเอเชีย ที่มีทั้งโบสถ์ มัสยิด สถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย และเมืองเอเกอร์ (Eger) เมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ให้เราได้เที่ยวกัน

 

ประเทศสโลวาเกีย (Slovakia)

สโลวาเกียเป็นหนึ่งในประเทศยุโรปตะวันออกที่อาจอยู่นอกสายตาของใครหลายคน แต่เอ็กซ์พีเดียอยากบอกว่าสโลวาเกียเป็นประเทศที่น่าไปเที่ยวมากๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการชมสถาปัตยกรรมสวยๆ เพราะสโลวาเกียเต็มไปด้วยปราสาทที่น่าประทับใจมากมาย เช่น ปราสาทกรุงบราติสลาวา (Bratislava Castle) ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงของสโลวาเกีย เป็นปราสาทสีขาว หลังคาสีส้ม ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือแม่น้ำดานูบ ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์แห่งราชวงศ์ออสโตร – ฮังกาเรียน ปัจจุบันกลายเป็นที่ทำการของรัฐบาลสโลวัก วุฒิสภา และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ นอกจากนี้สโลวาเกียยังมีเมืองน่าเที่ยวอีกหลายเมือง เช่น เมืองโคเชตช์ (Kosice) เมืองขนาดใหญ่อันดับสองที่มีวิหารเซนต์อลิซาเบธ (St. Elisabeth Cathedral) ตั้งเป็นแลนด์มาร์คใจกลางเมือง แล้วอย่าลืมไปชมความงามของยอดเขาชอโปค (Chopok) ซึ่งต้องเป็นที่โปรดปรานของใครที่ชื่นชอบการเล่นสกีแน่นอน

 

ประเทศโรมาเนีย (Romania)

โรมาเนียเป็นประเทศในยุโรปตะวันออกที่ได้ยินชื่อแล้วหลายคนอาจนึกถึงแต่เรื่องราวของแดรกคูล่า แต่บอกได้เลยว่าความจริงแล้วประเทศโรมาเนียมีอะไรให้เพื่อนๆ ได้ไปสัมผัสมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองหลวงอย่างบูคาเรสต์ (Bucharest) ที่เมื่อไปถึงแล้วขอให้รีบพุ่งตัวไปยังย่านเมืองเก่า เพราะตึกรอบข้างเป็นสไตล์นีโอคลาสสิคที่สวยงามเป็นอย่างมาก ภายในตึกเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารสุดทันสมัยที่พร้อมให้เพื่อนๆ ได้ไปช็อป ชิม ชิลกันอย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดอย่างรัฐสภาแห่งชาติโรมาเนียที่มีความหรูหราอลังการ เพราะในอดีตเคยเป็นพระราชวังมาก่อนนั่นเอง หากใครเป็นแฟนสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิครับรองว่าต้องหลงรักเมืองบูคาเรสต์แห่งโรมาเนียอย่างแน่นอน สำหรับเมืองอื่นๆ ที่น่าสนใจในโรมาเนีย ได้แก่ เมืองติมิโชรา (Timisoara) ที่มีสถาปัตยกรรม ร้านอาหาร และคาเฟ่น่ารักๆ ชิคๆ มากมาย แต่ถ้าใครอยากลองหลุดไปอยู่ในยุคกลางในบรรยากาศโกธิค ก็ขอแนะนำเมืองซีบีอู (Sibiu) เลย

 

ประเทศโครเอเชีย (Croatia)

โครเอเชียเป็นประเทศในยุโรปตะวันออกที่มีบรรยากาศหลากหลาย ทั้งเมืองสไตล์ยุโรปที่สวยงามและแหล่งท่องเที่ยวติดชายทะเล เริ่มกันที่เมืองหลวงของประเทศโครเอเชียอย่างซาเกร็บ (Zagreb) ที่มีอาคารบ้านเรือนสวยงามสไตล์ยุโรปให้เราได้ชื่นชมกัน นอกจากนี้ยังมีเมืองเก่าอย่างโทรเกียร์ (Trogir) เมืองมรดกโลกยูเนสโกที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างจากอิฐเก่าที่แปลกและสวยงาม แถมยังตั้งอยู่บนเกาะริมทะเล ทำให้เราได้ชมทิวทัศน์อันน่าประทับใจไปด้วย ปิดท้ายด้วยดูบรอฟนิก (Dubrovnik) เมืองในโครเอเชียที่เต็มไปด้วยป้อมปราการสวยงาม แถมยังเป็นหนึ่งในที่ถ่ายทำซีรีส์ชื่อดังอย่าง Game of Thrones อีกด้วย รับรองว่าสวยจนลืมหายใจกันไปเลย

 

ประเทศบัลแกเรีย (Bulgaria)

หากพูดถึงบัลแกเรีย หลายคนคงนึกถึงโยเกิร์ต แต่แท้จริงแล้วบัลแกเรียเป็นหนึ่งในประเทศน่าสนใจในยุโรปตะวันออก มีทั้งโซเฟีย (Sofia) เมืองหลวงสุดสงบให้เราได้เล่นชมบ้านเมืองสไตล์ยุโรป แล้วไปต่อกันที่อาสนวิหารอเล็กซานเดอร์ เนฟสกี (Alexander Nevsky Cathedral) โบสถ์ออร์โธดอกซ์อันสวยงามและสำคัญที่สุดในบัลแกเรีย นอกจากนี้ยังมีโบสถ์โบยานา (Boyana Church) โบสถ์ยุคกลางซึ่งถึงจะดูธรรมดาแต่ก็ขลังจนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกเลยทีเดียว หลังจากนั้นอย่าลืมไปเที่ยวเมืองพลอฟดิฟ (Plovdiv) หนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และเมืองเวลีโค ทาร์โนโว (Veliko Tarnovo) เมืองหลวงเก่าของบัลแกเรีย

 

ประเทศยูเครน (Ukraine)

ยูเครนเป็นอีกหนึ่งประเทศยุโรปตะวันออกที่น่าสนใจเพราะค่าครองชีพถูกมาก ถ้าจะทานข้าวใช้ชีวิตประจำวันก็ใช้เงินแทบไม่ต่างจากอยู่ไทยเลย แต่ที่แตกต่างอย่างแน่นอนคือบรรยากาศสวยงามรอบตัวที่ใครๆ ต่างก็ต้องหลงรัก ซึ่งเมืองหลวงเคียฟ (Kiev) แห่งยูเครนก็เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมายาวนาน มีโบสถ์สวยงามมากมาย ยิ่งใครรักสถาปัตยกรรมสไตล์โซเวียตบอกได้เลยว่าที่เคียฟนั้นมีให้ดูกันเพียบ! แล้วอย่าลืมไปเมืองริมทะเลที่ได้ขึ้นชื่อว่า “ไข่มุกแห่งทะเลดำ” อย่างโอเดสซา (Odessa) และเมืองแชร์นิฟซี (Chernivtsi) เมืองที่มีมหาวิทยาลัยประจำเมืองที่สวยงามจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ชื่อว่า Yuriy Fedkovych Chernivtsi National University นอกจากนี้อาหารยูเครนยังอร่อยอีกด้วย อย่างบอร์ช (Borscht) หรือซุปบีทรูทสีม่วงก็เป็นหนึ่งเมนูอาหารที่พลาดไม่ได้เลย

 

ประเทศรัสเซีย (Russia)

ประเทศสุดท้ายในยุโรปตะวันออกที่เอ็กซ์พีเดียขอแนะนำคือรัสเซีย หลังจากเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2018 ผู้คนในรัสเซียก็เริ่มคุ้นชินกับนักท่องเที่ยว ทำให้ผู้คนเป็นมิตรและพร้อมช่วยเหลือนักท่องเที่ยวมากขึ้น แถมสถาปัตยกรรมที่รัสเซียนั้นยังยิ่งใหญ่อลังการไม่น้อย เริ่มกันตั้งแต่ที่มอสโก (Moscow) ทั้งมหาวิหารเซนต์บาซิล (St. Basil’s Cathedral) โบสถ์สีลูกกวาดสุดสวย ซึ่งข้างกันนั้นก็มีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มอสโก (State Historical Museum) และห้างกุม (GUM) ห้างสุดหรูให้เพื่อนๆ ได้เลือกเดินช็อปสินค้ากันได้ จากนั้นอย่าลืมไปเดินดูความอลังการของพระราชวังเครมลิน (Grand Kremlin Palace) กันต่อ ส่วนใครที่ไปรัสเซียช่วงฤดูร้อนต้องไปเที่ยวเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St. Petersburg) เพื่อชมพระราชวังฤดูร้อนหรือพระราชวังปีเตอร์ฮอฟ (Peterhof Palace) ซึ่งมีน้ำพุและสวนสวยกันด้วย

 

 

กลับสู่หน้าหลัก http://www.euniceadorno.net