ยุโรป มีกี่ฤดู

ยุโรป มีกี่ฤดู

ยุโรป มีกี่ฤดู

 

ยุโรป มีกี่ฤดู – การเลือกช่วงเวลาในการมาเยือนยุโรปนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราควรทราบก่อนที่จะวางแผนมาเที่ยว เนื่องจากยุโรปมีฤดูถึง 4 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว โดยแต่ละฤดูก็จะมีภูมิอากาศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่ พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์และปราสาทบางแห่งในประเทศจะเปิดทำการให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้เฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวเท่านั้นคือช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน ส่วนช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวที่นี่คือช่วงเดือนพฤษภาคมหรือเดือนกันยายน เพราะช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่มีอากาศดีมากที่สุดของปี คือ อากาศกำลังสบาย ไม่หนาวและไม่ร้อนจนเกินไป และจำนวนนักท่องเที่ยวก็ไม่เยอะมากอีกด้วย ส่วนในเดือนเมษายนและเดือนตุลาคม ซึ่งมีอากาศหนาวกว่า นักท่องเที่ยวจะน้อยจึงทำให้คุณได้ห้องพักในราคาที่ถูกลง ส่วนในช่วงฤดูหนาว คือช่วงพฤศจิกายน-เดือนมีนาคมซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวอากาศจะหนาวเย็นมาก โดยคุณอาจจะได้เห็นเมืองต่างๆ ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว แต่ถึงแม้ว่าในช่วงนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งจะปิดทำการ แต่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของยุโรปในช่วงนี้กลับอยู่บนภูเขาสูง โดยมีนักท่องเที่ยวมากมายที่ไปเยี่ยมเยือนหรือทำกิจกรรมต่างๆ กันที่สกีรีสอร์ท ดังนั้นการศึกษาสภาพอากาศก่อนมาเที่ยวยุโรปจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ ทั้งนี้เพื่อให้การมาเยือนยุโรปเป็นไปตามจุดประสงค์หรือกิจกรรมที่คุณต้องการ อีกทั้งยังเป็นแนวทางในการจัดเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสำหรับแต่ละฤดูอีกด้วย

 

เขตอากาศของทวีปยุโรป สามารถแบ่งเป็น 7 เขตดังนี้

 

1.เขตภูมิอากาศแบบทุนดรา หรืออากาศแบบขั้วโลก เป็นเขตอากาศที่หนาวเย็นจัดตลอดทั้งปี ส่วนฤดูร้อนสั้นประมาณ 1-2 เดือน อุณหภูมิเฉลี่ยของเขตนี้ เฉลี่ยทั้งปีไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส พืชพรรณธรรมชาติได้แก่ มอสส์ ตะไคร่น้ำ เขตอากาศทุนดราของทวีปยุโรป ได้แก่ บริเวณคาบสมุทรสแกนดิเนเวียและบริเวณทางเหนือสุดของประเทศรัสเซีย

 

2.เขตอากาศแบบกึ่งขั้วโลกหรือไทกา ลักษณะอากาศในเขตนี้ คือ เป็นเขตที่มีอากาศหนาวจัดในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 6 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนมีระยะเวลายาวกว่าเขตภูมิอากาศแบบทุนดรา ปริมาณน้ำฝนทั้งปีอยู่ระหว่าง 500-1,000 มิลลิเมตร พืชพรรณธรรมชาติ คือ ป่าสนหรือป่าไทกา บริเวณลักษณะอากาศแบบนี้ คือ นอร์เวย์ สวีเดน และฟินแลนด์

 

3.เขตอากาศอบอุ่นชื้นภาคพื้นทวีป ลักษณะอากาศของเขตนี้ คือ ฤดูหนาวมีอากาศหนาวเย็น เพราะอยู่ลึกเข้าไปในใจกลางทวีป จึงไม่ค่อยได้รับอิทธิพลจากมหาสมุทร พืชพรรณธรรมชาติได้แก่ ป่าไม้ผลัดใบและไม่ผลัดใบผสมกัน ส่วนบริเวณที่มีฝนตกน้อย พืชพรรณธรรมชาติจะเป็นทุ่งหญ้าเขตอบอุ่น บริเวณลักษณะอากาศแบบนี้ คือ ดินแดนของประเทศโปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก สโลวาเกีย เอสโตเนีย และลัตเวีย

 

4.เขตภูมิอากาศแบบภาคพื้นสมุทรชายฝั่งตะวันตก ลักษณะของอากาศในเขตนี้ คือ ฤดูร้อนอากาศเย็นสบาย ฤดูหนาวอากาศไม่หนาวจัด เพราะเขตนี้มีที่ตั้งอยู่ใกล้มหาสมุทร จึงได้รับอิทธิพลจากมหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้เขตนี้มีอากาศอบอุ่น ชุ่มชื้น ฝนตกสม่ำเสมอตลอดทั้งปี ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยของทั้งปีอยู่ที่ 750-1,500 มิลลิเมตร พืชพรรณธรรมชาติเป็นป่าไม้เขตอบอุ่นชนิดป่าไม้ผลัดใบผสมกับป่าสน บริเวณลักษณะอากาศแบบนี้ ครอบคลุมบริเวณของประเทศฝรั่งเศส เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก เยอรมนี สหราชอาณาจักร และทางตอนใต้ของนอร์เวย์และสวีเดน

 

5.เขตภูมิอากาศอบอุ่นชื้น ลักษณะอากาศของเขตนี้ คือ อากาศอบอุ่น ฤดูร้อนอากาศร้อน มีฝนตกชุกตลอดทั้งปี ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 500-1,000 มิลลิเมตร พืชพรรณธรรมชาติ ได้แก่ ป่าไม้เขตอบอุ่นหรือทุ่งหญ้าเขตอบอุ่น บริเวณลักษณะอากาศแบบนี้ ได้แก่ บริเวณคาบสมุทรบอลข่าน ออสเตรีย และฮังการี

 

6.เขตภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ลักษณะอากาศในเขตนี้ คือ เป็นเขตที่มีแสงแดดตลอดทั้งปี ฤดูร้อนอากาศร้อนและแห้งแล้ง ฤดูหนาวจะมีฝนตก ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยประมาณ 500-1,000 มิลลิเมตรต่อปี พืชพรรรณธรรมชาติเป็นเขตอบอุ่น เรียกว่า ป่าไม้เมดิเตอร์เรเนียน เช่น คอร์กโอ๊ก ส้ม มะนาว องุ่น มีป่าไม้มีหนามแหลม เรียกว่า ป่ามากี (maquis) บริเวณที่มีลักษณะอากาศแบบนี้ คือ บริเวณที่มีอาณาเขตติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ได้แก่ ภาคใต้ของประเทศฝรั่งเศส อิตาลี สเปน โปรตุเกส เซอร์เบีย และกรีซ

 

7.เขตภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทราย ลักษณะสำคัญของอากาศในเขตนี้ คือ เป็นเขตที่มีปริมาณฝนน้อย ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งปีต่ำกว่า 500 มิลลิเมตร พืชพรรณธรรมชาติเป็นทุ่งหญ้าขึ้นเบาบาง

 

ฤดูกาลของยุโรป

 

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม)

เป็นช่วงเดือนที่ยุโรปกลับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่มีความวิเวกวังเวงและเยือกเย็นของฤดูหนาว ผ่านพ้นไปแล้วดอกไม้ใบหญ้าเริ่มผลิดอกออกใบทำให้มีชีวิตชีวา ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนยุโรปช่วงนี้มากที่สุด เพราะอยู่ระหว่างโรงเรียนปิดภาคฤดูร้อน และที่สำคัญคือเป็นช่วง ที่ดอกไม้ ในยุโรปเบ่งบานงดงามที่สุด โดยเฉพาะในฮอลแลนด์ มีงานเทศกาล ดอกทิวลิป และสวนพฤกษชาติเคอเคนฮอฟ (Keukenhof Garden) อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของ มวลดอกไม้นานาพันธุ์สดสีสวยงาม เปิดให้เข้าชมตอนกลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมเท่านั้น อากาศกำลังสบายน่าเที่ยว อุณหภูมิเฉลี่ย 12-22 องศาเซลเซียส

 

ฤดูร้อน  (มิถุนายน –สิงหาคม) 

ฤดูแห่งความอบอุ่นและมีชีวิตของยุโรป ระหว่าง3-4 เดือนนี้ ทวีปยุโรปจะสว่างไสวไปด้วยแสงแดดอันอบอุ่นที่สุดในรอบปีในแต่ละวันจะมีแดด ให้เห็นจนถึง 4 ทุ่มจึงพลบค่ำ แม้แต่ชาวยุโรปผู้รักธรรมชาติเองก็พากันลาพักร้อนไปตากอากาศ หรือพักผ่อนกันอย่างมากมาย สถานที่ ท่องเที่ยว อันเป็นที่โปรดปรานที่เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เมษายนถึงเดือนตุลาคม อาทิ เมืองตุ๊กตามาดูโรดัม (Madurodam) ในฮอลแลนด์ อุทยานน้ำพุทิโวลี (Tivoli) ที่กรุงโรม และเรือล่องแม่น้ำไรน์ ในเยอรมัน อากาศโดยทั่วไปเย็นตอนเช้าตรู่ และหัวค่ำ กลางวันร้อนแต่ไม่อบอ้าว อุณหภูมิเฉลี่ย 18-30 องศาเซลเซียส

 

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) 

โดยทั่วไปยังอบอุ่นเช่นเดียวกับฤดูร้อนที่ผ่านมาสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไปเปิดตามปกติ เหมือนฤดูร้อนจนกระทั่งปลายเดือนตุลาคม อากาศจึงเริ่มเย็นขึ้น แต่ยังถือเป็นฤดูน่าเที่ยวของยุโรปอยู่ เนื่องจากใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวสด เป็นเหลืองปนน้ำตาลแดง สอดสีเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งทวีป อากาศกำลังเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ย 10-18 องศาเซลเซียส

 

ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) 

ถึงแม้เดือนแห่งความอบอุ่นของฤดูร้อนจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ยุโรปก็ยังเต็มไปด้วย เอกลักษณ์ของความเป็นเมืองหนาวอย่างน่าชมทีเดียว ประเทศที่มี ภูเขาสูง (อิตาลี, สวิส, ฝรั่งเศส) จะมีหิมะปกคลุมอยู่ขาวนวล ถึงอากาศจะเย็น แต่นักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากก็ยังหลั่งไหลมายุโรป มาเพื่อสัมผัสกับ บรรยากาศอันสุขสงบของหิมะเมืองหนาว ยุโรปฤดูนี้จะเงียบ ไม่พลุกพล่าน หรือแออัดด้วยนักท่องเที่ยว เหมือนในฤดูร้อน อุณหภูมิเฉลี่ย 1 ถึง -10 องศาเซลเซียส

 

 

กลับสู่หน้าหลัก https://www.euniceadorno.net