รับจํานองที่ดิน

รับจํานองที่ดิน

รับจํานองที่ดิน การ จำนองหมายถึงการตกลง ทำข้อตกลง ลงลายลักษณ์อักษรต่อกัน ระหว่างบุคคลหนึ่งซึ่งพวกเราเรียกว่า “ผู้จำนอง” กับ บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า “ผู้รับจำนำ” โดยการเอาทรัพย์สินเป็นประกันว่าจะจ่ายหนี้ โดยไม่มอบเงินนั้นให้แก่ผู้รับจำนอง (มาตรา ๗๐๒) อสังหาริมทรัพย์ที่เรารับ ยกตัวอย่างเช่น ที่ดิน บ้านทุกประเภท คอนโด อพาร์ทเมนท์ แฟลต โรงงาน ปั้มขายฝากเป็นยังไง ?การ ขายฝาก ( ไม่ใช่ฝากขาย ) แม้กระนั้นคือ เป็นการทำความตกลงยืมเงินโดยขายฝาก เป็นสัญญาซื้อขาย ซึ่งสิทธิแห่งความเป็นเจ้าของ ในทรัพย์สินไปยังคนซื้อ (ผู้ให้กู้) โดยผู้บริโภคตกลงในขณะทำความตกลงว่า คนขาย (ผู้กู้) มีสิทธิไถ่สินทรัพย์นั้นคืนได้ด้านในระบุที่แน่นอนตามสัญญา หรือ ไถ่เงินทองนั้นคืน ได้ข้างในกำหนดเวลาเท่าใด แม้กระนั้นต้องไม่เกินในขณะที่กฎหมายกำหนดไว้ 10ปี ตัวอย่างเช่น ขายฝากบ้านพร้อมที่ดิน โดยมีกติกาว่า หากผู้ขายฝากอยากได้ซื้อคืน คนซื้อ (ผู้ให้กู้) จะยอมขายคืน แบบนี้ ถือได้ว่าข้อตกลงให้ไถ่คืนได้

รับจํานองที่ดิน

นักลงทุนถูกหลอก เหนือฟ้า คดีเด็ดจำนำขายฝากผมเอาตัวอย่าง โฉนด ทั้งสองแปลง มาให้แด่คุณมอง มองโฉนดเป็น ก็จะรู้เลยว่า ที่สวย มากมาย ติดที่ดินสาธารณะเข้าออกสะดวก เป็นทหารเกณฑ์ ก็ดีแล้ว 1 จำพวก 1 นะครับ งานดี แถมหากบอกต่อไปอีกว่า นี้ ห่างสมุทรไปอีกไม่ถึง 300 เมตร ชายหาดใช้ได้ ทะเลสวย น้ำเล่นได้ ไม่ลึก คลื่นไม่แรง เข้าไปอีก โอ้ย สุดยอด ที่ดีมีอนาคตไกล คนกลางส่งงานมา ขอเพียงแค่ 30-40 % ราคาตลาด แน่นอน ครับผม นักลงทุนท่านนี้ หรือ นายทุนทั้งหลายแหล่จำเป็นต้อง ต้องกระโดดเข้าใส่ คนกลางพาไปดูที่ ชี้ตำแหน่ง เทียบทิศทางกับโฉนด มองตำบลที่ตั้ง ทำเลแล้วหลังจากนั้นก็โอเคร คิดในใจ หากลูกค้า ไม่ไถ่ถอน จะแถมให้อีกบางส่วน (กล้าให้ใจกล้านะเนี่ย) เดียวจะเอามาทำ รีสอร์ทซะเลย

เป็นระเบียบเรียบร้อยครับผม นัดหมายกันทำ ขายฝาก ที่ที่ทำการที่ดิน ก็ไม่มีปัญหา โฉนดก็ไม่ติดอายัดอะไร
1 ปี ผ่านไป ไวเหมือนโป้ปดมดเท็จ นายทุนคุณธรรมผู้นั้น ก่อนถึงวันลูกค้าไถ่ถอน ก็ติดต่อลูกค้าไม่ได้ ด้วยความเป็นผู้ยึดมั่น หลักเกณท์ ไม่เอาเปรียบเทียบผู้ใดกัน(แม้คนใดกันแน่จะว่าเขี้ยวก็เขี้ยวในเกมส์) ก็ไปตามถึงหน้าบ้าน ญาติก็บอก ว่าไม่อยู่แล้ว ย้ายไปเมืองนอกไม่ติดต่อคนใด (จงใจล่องหนแน่แล้ว) แล้วก็ถามถึงที่ดินดังกล่าวมาแล้วข้างต้น พี่น้องก็พูดว่าที่ตาบอดตรงนั้นนะหรือ

เค้าอาจจะไม่เอาแล้ว ขายฝากได้ เค้าดีแล้วจิตใจตายแล้วอุต้ะ! ลมแทบจะใส่ ความจริงก็เปิดเผย ตามไปเช็คที่กรม คราวดินให้รอบคอบอีกครั้ง ไปดู สารบบ ระวางแปลงใหญ่ ก็เลยได้ทราบความจริง ตามเช็คกับ นายหน้าก็บอกว่า เค้าไม่รู้เรื่อง เจ้าของพาไปชี้เอง แต่ไปชี้ที่ใกล้เคียง ฝากขายบ้านฟรี ลักษณะเดียวกัน ติดที่ส่วนรวมจริง แต่คนละแปลงที่ แต่ว่าด้วยเหตุว่าเป็นที่ที่เค้าทำเพื่อแบ่งขาย ก็เลยมีเนื้อที่และก็

ลักษณะเช่นกัน ทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง เข้าส่วนประกอบหมด ไปสอบถาม เจ้าหน้าที่ที่ดิน ก็ได้คำตอบว่า ที่ติดที่ดินดังที่กล่าวมาแล้ว เป็นที่ติดสาธารณะจริง เมื่อมีคนชูให้ทางการก็ต้องรับเอาไว้เป็นที่สาธารณะ (แม้กระนั้นที่ดังที่ได้กล่าวมาแล้วก็ไม่ได้ติดที่ชุมชนแปลงอื่นๆ)รวมความก็คือ มันเป็นที่ตาบอดจริงๆครับ รับจํานองที่ดิน บอดสนิทด้วย ไม่ใช่บอดลางๆไอ้ยา++ สูญเงินไปตั้งมากมาย

ทำอย่างไรดี จะฟ้องร้องคดี ก็อาจยาก มันหายเข้ากลีบเมฆซะแล้ว จะชนะหรือเปล่าก็ไม่เคยรู้ ชนะแล้วได้อะไร เสียค่าทนาย ขนบธรรมเนียมฤชาอีก มากมาย แน่นอนทราบมาว่า คราวหลัง ท่านก็ได้อุตสาหะพูดจาซื้อที่ตัดถนนออกสู่ ถนน สาธารณะ(ที่แท้จริงได้) ใช้เงินอีกมาก

ที่ถูกเปลี่ยนเป็นที่แพง แม้กระนั้นก็ยังดีที่ขจัดปัญหาได้ แล้วก็ ได้ทำการตลาดเพื่อจะขายต่อไปโฉนดตามแบบอย่างที่ชูให้เห็นงามๆนั้นไม่แน่ครับ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอีกก็ได้ คนไหนกันจะทราบ โปรดระวัง! นีแหละครับ “อุทาหรณ์ของคนสมัยเก่า มีชายเฒ่าเป็น คนขี้เมา….เอ้ย ไม่ใช่แระ” คดีเด็ดเรื่อง นายทุนถูกหลอก นี้ก็เลยสรุปว่า อย่าได้ประมาทเชียว เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือนายหน้า ยังมีทีตาบอด (ฮา)

มาตรฐานการอนุญาตสินเชื่อผู้สมัครสินเชื่อควรมีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยสามารถเลือกช่วงเวลาผ่อนหนี้ได้สูงสุด 40 ปี ทั้งนี้เมื่อนำอายุของผู้สมัครรวมกับระยะเวลาผ่อนชำระหนี้สินแล้วจำเป็นที่จะต้องไม่เกิน 70 ปีแนวทางการไตร่ตรองอนุมัติสินเชื่อ

1. ยื่นคำขอสินเชื่อที่สาขาแบงค์ ท่านสามารถยื่นคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารประกอบถึงที่เหมาะสาขาแบงค์ที่ท่านสะดวก พนักงานจะพิจารณาสินเชื่อพื้นฐานจากข้อมูลการสัมภาษณ์ และเอกสารของท่าน ดังเช่น รายได้ ค่าใช้จ่ายครอบครัว หนี้อื่นๆเพื่อประเมินความรู้ความเข้าใจในการผ่อนส่งของท่าน

2. สรุปพินิจพิจารณารวมทั้งเสนอคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารประกอบเพื่อรอคอยการพิจารณาอนุมัติ เมื่อพินิจพิเคราะห์แล้วว่าท่านมีความเข้าใจสำหรับในการผ่อนหนี้เงินงวดได้ตามวงเงินที่ยื่นขอสินเชื่อไว้ พนักงานจะส่งเรื่องถึงแม้ว่าจะงานประเมินหลักทรัพย์ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทตีราคา ติดต่อท่านเพื่อนัดหมายเข้าไปประมาณมูลค่าหลักประกัน ตามวันและก็เวลาที่ท่านสะดวก

ด้านใน 3 วันทำการ หลังจากที่ท่านได้ยื่นใบคำร้องขอสินเชื่อแล้ว หลังจากนั้นบุคลากรสาขาจะทำบันทึกข้อมูลลงในระบบตามการสัมภาษณ์ แล้วก็เอกสารของท่าน ดังเช่นว่า รายได้ รายจ่ายครอบครัว หนี้อื่นๆเพื่อส่งให้ผู้อนุมัติสินเชื่อพิจารณาต่อไปโดยพิจารณาจาก วัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ ดังเช่นว่า ซื้อที่ดินตึก ,ซื้อห้องเช่า ,ไถ่คืนจำนำ อื่นๆอีกมากมายคุณลักษณะผู้ขอกู้ เป็นต้นว่า สถานภาพ, การเรียน, อาชีพ อื่นๆอีกมากมายความรู้ความเข้าใจในการผ่อนชำระสินเชื่อประเภทและมูลค่าของหลักประกัน

3. แจ้งผลการพิเคราะห์อนุมัติสินเชื่อ ธนาคารจะติดต่อและแจ้งผลการพินิจอนุมัติสินเชื่อให้คุณรู้ข้างใน 7 วันทำการ นับจากวันที่ท่านยื่นใบคำร้องขอสินเชื่อ พร้อมเอกสารประกอบ(ครบถ้วนบริบูรณ์) เพื่อจัดเตรียมนัดวันลงลายลักษณ์อักษร

4. ทำสัญญากู้หนี้ยืมสิน และก็คำสัญญาจำนอง แม้ท่านได้รับอนุมัติสินเชื่อ ธนาคารจะนัดหมายท่านเพื่อทำข้อตกลงกู้ยืมเงินที่สาขาของธนาคาร รวมทั้งนัดหมายวันทำนิติกรรม ณ กรมที่ดิน ที่หลักประกันหรือโฉนดที่ดิน ลงบัญชีไว้กรณีมีผู้กู้ร่วม หรือคู่ควง ท่านจะต้องนัดพบให้บุคคลเหล่านั้นมาร่วมลงนามในสัญญาทุกฉบับ สำหรับรายจ่ายในวันทำข้อตกลง บุคลากรแบงค์แจ่มแจ้งให้รู้อีกครั้งในวันที่นัดอ

หน้าที่ของเงิน ด้วยปัญหาข้างต้น เงินก็เลยเกิดขึ้นและทำหน้าที่ดังต่อไปนี้

*เป็นตัวกลางสำหรับเพื่อการเปลี่ยน (Medium of exchange)

*เป็นที่เก็บรักษาค่า (Store of value)

*เป็นหน่วยวัดค่า (Unit of account)

*เป็นมาตรฐานสำหรับในการจ่ายหนี้ในอนาคต (Standard of deferred payment)

หน้าที่นี้เกิดขึ้นเมื่อมีการซื้อขายผลิตภัณฑ์เครดิตกัน เพราะเหตุว่าการกำหนดเป็นการคืนด้วยเงินนั้น ย่อมที่จะดีมากกว่าการกำหนดการคืนด้วยผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจมีปัญหาทั้งด้านขนาด ปริมาณและประสิทธิภาพ อีกทั้งสินค้าบางสิ่งบางอย่างยังบางทีอาจเน่าเหม็นได้ง่ายนิยามของเงินเงินเป็นใดๆก็ตามที่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปสำหรับในการใช้ซื้อ-ขายของแล้วก็บริการ รวมไปถึงการใช้ใช้หนี้

โดยในยุคเก่า คนอาจจะใช้กาบหอย หรือทอง หรือโลหะอะไรก็ได้เพื่อใช้เป็นเงิน จวบจนคนในสังคมยอมรับค่าของสิ่งนั้นๆแต่ว่าทั้งนี้ ก็จะต้องมีคุณลักษณะที่สำคัญคือ เมื่อระบุค่าของเงินแล้ว ค่านั้นจำเป็นจะต้องคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ไม่ใช่วันนี้มีค่า 1 บาท แต่อีกวันมีค่าเพียงแค่ 50 เงิน หรืออีกวันมีค่าถึง 100 บาท ฯลฯ ดังนี้ ก็เพื่อสิ่งๆนั้นยังสามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวกลางสำหรับในการแลกเปลี่ยนในสังคมได้

เพราะเหตุว่าถ้าเกิดค่าของเงินไม่คงที่ เป็นต้นว่า ด้อยลงเรื่อยคนในสังคมก็จะขาดความวางใจ และไม่ยอมรับเงินนั้นเป็นสื่อกลาง และก็ไม่ยอมรับให้เป็นสิ่งที่ใช้ชำระหนี้ในอนาคตคลิปประกอบบทความ เมื่อรู้เรื่องของเงินแล้วว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็มาดูเรื่องของคำว่า “ปริมาณเงิน” ที่มักจะมีการกล่าวถึงอยู่เรื่อยในสื่อต่างๆว่าเป็นอย่างไร จำนวนเงิน (Money supply หรือ Supply of money) เป็นยังไงความหมายของจำนวนเงินอย่างแคบ (Narrow money) หรือที่เรียกว่า M1 จะเป็น

M1 = แบงค์ + เหรียญกษาปณ์ + เงินฝากบัญชีกระแสรายวัน (Demand deposit)จำนวน เงินเป็นเงินที่หมุนวนอยู่ในมือพสกนิกร มีแบงค์แล้วก็เหรียญกษาปณ์ที่อยู่ในมือสามัญชน แล้วก็รวมทั้งเงินฝากบัญชีกระแสรายวัน ซึ่งเป็นเงินออมเผื่อเรียกที่ประชากรฝากไว้ที่ระบบธนาคาร ขายฝากบ้านที่ดิน เป็นต้นว่า ธนาคารพาณิชย์ต่างๆความหมายของปริมาณเงินอย่างกว้าง
(Broad money)

ความครอบคลุมตามนิยามนี้ก็เป็นเช่นเดียวกับชื่อที่ใช้คือ ออกจะครอบคลุมไปถึงเงินในหลายต้นแบบ โดยในช่วงก่อนหน้านี้ พวกเราบางครั้งก็อาจจะเคยได้ฟังคำว่า M2 M2a M3 ในไทย หรือ M4 รวมทั้ง M5 ในต่างชาติ ขึ้นอยู่กับว่าในแต่ละประเทศเลือกที่จะเก็บรวบรวมจำนวนเงินในแต่ละนิยาม (ซึ่งเป็นไปตามหลักสากล) ไว้เพื่อติดตามแล้วก็วิเคราะห์เช่นไร แม้กระนั้นทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวนี้ก็คือความหมายของจำนวนเงินอย่างกว้าง เป็นต้นว่า

  • M2 จะซึ่งก็คือ M1 + เงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประจำของพลเมือง
  • M2a จะเป็น M2 + เงินฝากของประชาชนที่อยู่ในรูปตั๋วสัญญาใช้เงินที่บริษัทเงินทุน
  • M3 จะซึ่งก็คือ M2a + เงินฝากของประชาชนที่แบงค์เฉพาะกิจแต่ ปัจจุบันนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เผยแพร่นิยามใหม่ของปริมาณเงิน

โดยนิยามของปริมาณเงินที่ใช้กันอยู่ปัจจุบันจะเหลือแค่จำนวนเงินใน 2 นิยามแค่นั้นเป็น

o จำนวนเงินตามความหมายแคบ องค์ประกอบยังอย่างเดิมที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น แต่ในส่วนของเงินฝากบัญชีเดินสะพัด ซึ่งเป็นเงินออมเผื่อเรียกที่พสกนิกรฝากไว้ที่ระบบแบงค์นั้น เปลี่ยนเป็นเงินฝากกระแสรายวันที่ สถาบันรับฝากเงิน (Demand deposits at depository corporations) ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารชาติ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินลงทุน ธนาคารเฉพาะกิจ อาทิเช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ฯลฯ รวมทั้งสหกรณ์ออมทรัพย์รวมทั้งกองทุนรวมตลาดเงิน (Money market mutual fund)

o ปริมาณเงินตามความหมายกว้าง จะประกอบไปด้วยเงินฝากของราษฎรทั้งหมดทั้งปวงไม่ว่าจะอยู่ในรูปของเงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ เงินฝากในรูปตั๋วสัญญาใช้เงินที่บริษัทเงินทุน เงินฝากของประชากรที่แบงค์เฉพาะกิจ รวมไปถึงที่เสริมเติมเข้ามาใหม่ให้อยู่ในนิยามนี้ด้วยดังเช่นว่า เงินรับฝากของธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ในรูปของเช็ค เงินรับฝากของสหกรณ์ออมทรัพย์

และมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อมีความเกี่ยวเนื่องถึงจำนวนเงินในระบบเศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อยๆ..ด้วยเหตุว่าเรื่องของ จำนวนเงินนั้น ยังคงมีอีกหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกัน แม้กระนั้นเพื่อไม่ให้บทความนี้ยาวกระทั่งเหลือเกิน จึงขอเก็บไว้เล่าในตอนหน้าว่าปริมาณเงินเปลี่ยนแปลงได้หรือเปล่า ถ้าเปลี่ยนได้จะเปลี่ยนจากสาเหตุใด คนมีความต้องการถือเงิน (Demand for money) เพื่อจุดประสงค์ใดบ้าง และก็เกี่ยวอะไรกับอัตราดอกเบี้ยหรือเปล่า รวมไปถึงเรื่องอื่นๆที่น่าดึงดูด..